วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

ป๋าเปลว สีเงินเป็นพ่อยกอภิสิทธิ์สุดลิ่ม ใครจะมาเป็นหางเครื่องเชิญครับ..เป็นกำลังใจนายก วัน ดับทักษิณ ๑๙ กันยา

วัน "ดับทักษิณ" ๑๙ กันยา
เปลว สีเงิน

นายกฯ ท่านบอก "ไม่กลัว" ชุดดำ "ลอบสังหาร" จะหมายความว่ากลัว "ชุดแดง" มากกว่าหรือยังไงก็ไม่ทราบ เห็นคนอื่นเป็นนายกฯ แล้วผมอิจฉา อยากเป็นบ้าง แต่เป็นไม่ได้ และไม่ได้เป็น แต่พอเห็นคุณอภิสิทธื์เป็น ผมกลับอิจฉาตัวเอง เพราะนับแต่วันแรกที่คุณอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกฯ ไม่มีซักวันที่จะไม่ถูกมารตามผจญ แถมแต่ละวันแทบต้อง "กิน-ถ่าย-นอน" ในรถ ไหนจะงานประจำ แล้วยังไหนจะงานจรนอกสถานที่อย่างน้อยอีกวันละ ๕-๖ งาน

เป็นนายกฯ น่ะ...ไม่ยาก!

แต่เกิดเป็น "นายกฯ อภิสิทธิ์" นี่ซี ดูมันรากเลือดแสนสาหัสเสียจริงๆ โชคดีที่ท่านเกิดราศี "คนชนคน" ฉะนั้น...หนุ่มอีตันบ่เคยยั่น ใครข้องใจ จะแบบเรียงหน้าฟัด หรือแบบลอบฟัด...เชิญ ท่านปักส้นเท้าสู้สิบทิศ แค่เบี่ยงนิด-เบี่ยงหน่อย แต่เรื่องถอย...

ไม่มีในพจนานุกรมมาร์ค!

ก็เพราะความที่ "เกิดมาเพื่อเป็นนายกฯ" นี่แหละ จึงมีคุณสมบัติพิเศษฝังอยู่ในตัว ดูเหมือนว่า ในความเกลียด-ความอิจฉาของศัตรู แต่ลึกๆ ลงไปในจิตวิญญาณของนักสู้แบบสุภาพบุรุษด้วยกันแล้ว ศัตรูหลายคน ทั้งสามัญและวิสามัญ กระทั่งในฝ่ายค้าน ก็มิอาจที่จะไม่ยอมรับนับถือน้ำใจ และให้เครดิตกันอยู่ในเชิง

ถูกต้องแล้ว ผมหมายถึง "สมควรอย่างยิ่ง" ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ต้องได้รับความอิจฉา-ริษยา ความเกลียดแค้น-ชิงชัง การอาฆาตมาดร้าย การขัดขวางทุกเส้นทางงาน กระทั่งการมุ่งหมายเอาตาย-เอาเป็นเพราะคุณอภิสิทธิ์ "มีดีกว่า" นี่แหละ เขาจึงอิจฉา และดีนั้นจะจริงสมฐานะ "ผู้นำประเทศ" หรือไม่ มันก็ต้องให้เขา "ลองดี" ในช่วงทดสอบ "สู่ความยิ่งใหญ่" เป็นธรรมดา!

ซึ่งมันก็สมควร "ทองแท้ไม่กลัวไฟ" มิใช่หรือ จะว่าไปแล้ว ถนนสู่เก้าอี้นายกฯ ของคุณอภิสิทธิ์ค่อนข้างจะราบเรียบ และเป็นไปตามสเต็ปที่วางไว้ ในขณะที่นายกฯ แต่ละคนกว่าจะมาถึงจุดนี้ "หน้าเยิน-ร่างยับ" ด้วยกรำเขี้ยวงาจากการต่อสู้ ๖๐ ไปแล้ว หรือเฉียด ๖๐ โน่นแหละ ก้นถึงจะมีโอกาสได้สัมผัสเก้าอี้

เรียกว่ากว่าจะบ่มบารมีให้เป็นที่ยอมรับทั้งคนในรัฐสภาและนอกรัฐสภา

หมารอบๆ สภา "แก่ตาย" ไปหลายรุ่น!

ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับประเภท "นายกฯ แก้บน" อย่างพลเอกสุรยุทธ์ ซึ่งมานอกระบบ หรืออย่างท่านนายกฯ สมชาย แต่ว่าไปแล้ว ท่านก็ "มีดี" ที่ทำให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่เหมือนกัน เพียงแต่คนละประเภทกับนายกฯ อภิสิทธิ์และคนอื่นๆ เท่านั้น

ของคนอื่นเขา ด้วยหมัด และแข้ง แต่ของพลเอกสุรยุทธ์ ด้วยรถถังอุ้มสม ของคุณสมชาย ด้วยเจ๊แดง-ภริยาท่าน ซึ่งเป็นน้องสาวทักษิณอุ้มสม

แต่แบบนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นด้วยระบบ และสิ่งที่เรียกว่า...บอร์นทูบี นั่นแหละ!

แต่การที่ "ได้เป็น" ตั้งแต่อายุ ๔๐ ต้นๆ สิ่งที่ได้เป็นคือ "ตำแหน่งนายกฯ" จึงเป็นท่ามกลางความไม่ยินยอมพร้อมใจรับของทั้งคนในเวทีการเมืองและนอกเวที เหมือนนักมวยต่อย ๒-๓ ครั้งได้เป็นแชมป์โลก หน้านวลเช้ง ไร้ร่องรอยตีนกา-ตีนกู-ตีนคุณ หางคิ้วไม่ปูดโปนด้วยแผลเป็นจากการต่อสู้ปรากฏเป็นประกาศนียบัตร คนจึงไม่แน่ใจว่าได้แชมป์มาเพราะ

ฝีมือ หรือฟลุก!?

ก็ต้องเข้าใจ เกิดมาเพื่อเป็นนายกฯ ก็อาจได้เป็นนายกฯ ซักตั้ง-ครึ่งตั้ง แต่การจะดำรงคงทนอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ซัก ๒-๓ เทอมนั้น มันต้องสร้างเองผสมด้วย

สร้างอะไร?

สร้างบารมีให้ทั้งนักการเมืองด้วยกัน และทั้งประชาชนส่วนใหญ่ "ยอมรับ" ในฝีมือน่ะซี!

ฉะนั้น การเป็นนายกฯ ของคุณอภิสิทธิ์ในช่วง "วิกฤติบ้านเมือง" จึงเป็นโอกาสในวิกฤติของคุณอภิสิทธิ์ ที่ทั้งเหตุการณ์ สถานการณ์ สารพัดปัญหา ทั้งในท้องถนน ทั้งในรัฐสภา และทั้งประชาคมโลก ที่ประดังประเดเข้ามาได้ทดสอบ ได้หลอม ได้ลงตะไบ "อภิสิทธิ์-นายกฯ ชั่วคราว" ว่า

มีคุณสมบัติพร้อม และผ่านด่านสู่ความเป็น "นายกฯ ถาวร" ได้หรือไม่?

เปิดไฟแดง รุมตีกลางถนนที่พัทยา ก็ผ่านมาแล้ว

ปิดกระทรวงมหาดไทย รุมตีคารถ ก็ผ่านมาแล้ว

พังโรงแรมไล่ฆ่าคางานผู้นำอาเซียน ก็ผ่านมาแล้ว

ยึดราชประสงค์ "เผาเมือง" สาดเลือดทำเนียบฯ ก็ผ่านมาแล้ว

เรียกว่าทั้งเฉียดตาย ทั้งผงาดในเวทีไทย-เวทีโลก ช่วงระยะ ๒ ปีในตำแหน่งหน้าที่นายกฯ คุณอภิสิทธิ์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "เกิดมาเพื่อนำประเทศ" แท้จริง

โดยเฉพาะ "นำประเทศ" ในภาวะวิกฤติศรัทธา-วิกฤติปัญหา-วิกฤติสถาบัน!

เหล่านั้น เปรียบก็เหมือน "สนิมกรุ" จากการปลุกเสกแต่ละครั้ง และแต่ละครั้ง "หนักๆ ทั้งนั้น" เดิมพันด้วยชีวิต แต่นายกฯ อภิสิทธิ์ท่านสู้ยิบตา ไม่ใช้สู้คน แต่สู้ปัญหา สู้แบบ เอ็งมาด้วยวิธีมืด แต่ข้าแก้ด้วยวิธีสว่าง ค่อยๆ สะสางด้วยความอดทน ทรหด บึกบึน ดวงตาไม่เคยขาดแวว และที่สำคัญ "ใจ" นั้น เกินร้อยจริงๆ

จากพระใหม่ แบกระจาดขายคนก็ไม่ซื้อ ถึงตอนนี้นายกฯ อภิสิทธิ์เริ่มขลังระดับ "พระกรุ" มีราคาเรียกหาในท้องตลาด ขนาด "สนิมเขียว" ยังไม่จับยังขนาดนี้ ผ่านตุลา ผ่านสิ้นปี เข้าสู่ฤดูกาล "เลือกตั้งใหญ่" สงสัยราคาจะถึงระดับ "เบญจภาคี" นั่นเชียว!

อภิสิทธิ์มีราคาเพราะ "มาร" จริงๆ สมอย่างที่พระท่านว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" แล้วนี่...ก็เข้าสู่เทศกาล "มารมาเพิ่มบารมี" ให้อีกรอบแล้ว ๑๙ กันยา เพื่อนผองน้องพี่เสื้อแดงจะทำพิธีรำลึกถึง "ทักษิณ-วันที่แผ่นดินไม่ต้องการ"

เห็นใจเขาเถอะ มันเป็นช่องทางทางรายได้อย่างหนึ่ง อะไรที่พออะลุ้มอล่วยกันได้ ทาง ศอฉ.ก็อย่าขึงกฎหมายเอากับพี่น้องเสื้อแดงเขาให้หนักนัก

ผีตาย ๔ ปี มันยังพอมีเงินปากผีให้แคะ ถ้าเขาชุมนุมกันเป็นที่เป็นทาง ไม่ปิดถนน ไม่เผายาง ไม่ตั้งบังเกอร์ ไม่โรดโชว์ทั่วบ้าน-ทั่วเมือง ไม่บึ้ม เอ็ม ๗๙ และไม่ "ตกใจ" เผาเลย แล้วบุกห้างกวาดนาฬิกา แว่นตา กระเป๋า อย่างคราวที่แล้วล่ะก็

เอ็นดูเขาเถอะ "สำหรับชาวบ้าน"

ส่วนพวกตัวการ เป็นหน้าที่ท่านควรวินิจฉัย เพราะติดตามดูความเคลื่อนไหวทั้งในที่ลับและที่แจ้งมาโดยตลอดแล้วมิใช่หรือ?

พูดถึงความเคลื่อนไหว คนที่อยู่ละแวกอาคาร OAI ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขาบอกมาว่า ระยะนี้มีความเคลื่อนไหว "ผิดสังเกต" ผมถามเขาว่าผิดยังไง เขาก็บอกว่า...ผิดตรงที่ไม่เคลื่อนไหวเหมือนตามปกติที่ผ่านมา

ตามปกติตั้งแต่สมัย "พลังประชาชน" ตั้งอยู่ที่นี่ จนย้ายไป แล้วย้ายกลับมาอยู่ใหม่เป็นเพื่อไทยใหม่ๆ จะเห็นคนเข้า-ออกทั้งวัน รวมทั้งนักข่าวที่มาเฝ้าข่าว ท่านจตุพรมักจะปรากฏกายออกไปโจ้ส้มตำกับนักข่าวที่ร้านใกล้ๆ แต่-ตั้งแต่มีกำหนดหมายป่วนเมือง ๑๙ กันยา ทั้ง ส.ส. ทั้งนักข่าว และทั้งใครต่อใคร

เคลื่อนไหวที่พรรคเพื่อไทยแบบ "ไม่เคลื่อนไหว" ให้ปรากฏความเคลื่อนไหว จะเข้า-จะออก จะใช้เส้นทาง "ใต้ดิน"!

คือทั้งแปลกหน้า และไม่แปลกหน้า รวมทั้งหัวโล้นห่มเหลือง มากันมาก แต่เงียบเชียบมาก!?

ยิ่งตอนนี้มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ บรรทุกจานดาวเทียมมาจอดที่หน้าพรรค แล้วมีรถบรรทุกย่อยมาถ่ายจากรถใหญ่ กระจายกันนำจานไปติดตั้ง นัยว่า "ทีวีแดง" ปิดไป แต่ตอนนี้กำลังเริ่งเปิดสถานีใหม่ จึงรีบติดจานให้เครือข่ายเพื่อความสะดวกในการส่งสัญญาณนัดหมาย แต่จะเป็นสัญญาณประเภท

"ตกใจ-เผาเลย" อย่างนั้นหรือไม่ เรื่องในอนาคต อย่าไปเดา!

ผมก็ขอบอก-ขอบใจที่เป็น "นักข่าวพลเมือง" รายงานให้ผมทราบ และอยากบอกว่า ไม่ควรไปข้องอกข้องใจอะไรกับเพื่อไทย เพราะสภาพพรรคตอนนี้ ก็เหมือนงูไร้หัว ถ้ามีหัว ก็เป็นลักษณะ "งูหงอนไก่" หนึ่งตัว แต่หัวแย่งกันยุ่บ

ฉะนั้น ก็ใช่ สภาพในพรรคตอนนี้ จะพิลึกชวนสยอง ควรปล่อยให้ "ไปจนถึงที่สุด" ด้วยตัวเขาเอง อย่าไปขัดขวาง หรือทำอะไรให้เกิดอาการสะดุด-หยัดชะงัก ประชาชนที่หลงเชื่อหัวปัก-หัวปำ ก็จะได้ตั้งหัวได้ ที่ตั้งแล้วแต่ยังสองจิต-สองใจ จะได้ชัดเหลือใจเดียว และที่ชัดในพฤติกรรม ข้างหน้าพรรค-ข้างในแก๊ง จะได้พบแสงสว่างเสียที

เพื่อไทยนั้น ไม่มีใครทำ ความตกต่ำล้วนมาจาก "ทำกันเอง" ทั้งสิ้น การเผาบ้าน-เผาเมืองที่เห็นอยู่ทนโท่ มันอยู่เหนือการกะล่อนปล้อนปลิ้นกล่าวหารัฐบาล-ทหาร-ตำรวจว่า "ฆ่าประชาชน" ๘๐-๙๐ ศพอะไรนั่น ทำเป็นไก๋ เค้นคอถามทางการว่า..ใครฆ่าบ้าง จะไปฟ้องยูเอ็นบ้าง ที่แท้ก็...โธ่เอ๊ย

พวกคุณนั่นแหละ...ตัวดี

เปลว สีเงิน

000000000

เชียร์นายกด้วยคนป๋า อาราธนาพระเครื่องลำพูนขึ้นคอไว้เลย...

ขอคุณพระคุณเจ้าคุ้มครองคนดี


ที่มา http://www.oknation.net/blog/canthai/2010/09/17/entry-5

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น