วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

จับช่างกลยิงเด็กป.3ดับอ้างไม่ได้ตั้งใจ


คมชัดลึก :จับนร.ช่างกลมือยิงเด็ก 9 ขวบเสียชีวิต บอกสำนึกผิดแล้ว ขอโทษพ่อแม่เด็กที่ตาย ไม่ได้ตั้งใจทำ ด้านแม่-พี่รับศพ"น้องเทียน”ด้วยความโศกเศร้า ขณะที่"พงศพัศ" ระบุ ตำรวจไม่นิ่งนอนใจเตรียมประชุมครู ผู้ปกครอง หามาตร การป้องกัน

(2ก.ย.) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา สบ.10 พร้อมด้วย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายแชมป์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี "มือยิง" และนายปริวรรต หรือติ๊บ อายุ 19 นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยี บางกะปิ ผู้ต้องหาร่วมกระทำความผิด 3 ข้อหาคือ ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

หลังก่อเหตุยิงคู่อรินักเรียนช่างอุสาหกรรมกรุงเทพ บนรถเมล์สาย 113 เป็นเหตุให้เด็กชายจตุพร ผลผกา อายุ 9 ขวบถูกลูกหลงเสียชี วิต โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ ซึ่งนายแชมป์"มือยิง" บอก รู้สึกผิดต่อการกระทำของตัวเอง พร้อมกล่าวขอโทษพ่อแม่เด็กที่เสียชีวิต ระบุเหตุที่ทำเพราะต้องการแก้แค้นคู่อริ จึงไปซื้อปืนมาจากย่านหนองจอกในราคา 2500 บาท และไม่ตั้งใจที่จะทำร้ายน้อง(ด.ช.จตุพร ) จึงอยากฝากไปถึงรุ่นน้องรุ่นพี่ว่า อย่าได้ทำแบบนี้อีกเพราะจะทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าว พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ พร้อมนายตำรวจชั้นผุ้ใหญ่ในนครบาล ร่วมกันประชุมเคร่งเครียดมาตการแก้ไขปํญหานักเรียนตีกันแบบยั่งยืน เชิญตัวแทน 3 โรงเรียนมีปัญหาเข้าร่วมกับคณะทำงานเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวะศึกษา ประกอบด้วย โรงเรียนเทคโนโลยีบางกะปิ โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ วิทยาลัยเทคนิคดุสิตเพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ด้านพ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสน.มีนบุรี จับกุมคนร้ายลงมือยิงใส่คู่อริพร้อมอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายเป็นนักเรียนช่างยนต์ ชั้นปีที่ 2 รร.เทคโนบางกะปิ อายุ 16 ปี ส่วนผู้ที่ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฏหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง และฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา

พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังนักเรียนนักเลงจากเทคโนบางกะปิ ก่อเหตุแล้วพากันหนีไป เจ้าหน้าที่พยายามประสานกับหลายฝ่ายจนทราบสถาบันของกลุ่มผุ้ก่อเหตุและก็ได้รับความร่วมมือจากอาจารย์จนกระทั่งทราบตัวผู้กระทำผิดจึงขออำนาจศาลอนุมัติออกหมายจับจนกระทั้งสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้พร้อมของกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. ที่สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร. แถลงผลการชันสูตรศพ ด.ช.จตุพร ผลผกา หรือน้องเทียน อายุ 9 ขวบ นักเรียน ป.3 โรงเรียนวัดบำเพ็ญเหนือ ที่ถูกลูกหลงจากเหตุนักเรียนตีกันเสียชีวิตบนรถเมล์ สาย 113 ว่า คดีเช่นนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เมื่อมีเหตุนักเรียนตีกันมักมีผู้ตกเป็นเหยื่อ ครั้งนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ได้มอบให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา(สบ10 ) ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อวางมาตรการแก้ปัญหานักศึกษาที่มาอาละวาดบนท้องถนน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับญาติและครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูกชายทั้งที่เหตุไม่น่าจะเกิด โดยผลการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตพบถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าที่ศีรษะและช่องอก ซึ่งกระสุนเข้าไปทำลายสมองทำให้เสียชีวิต ทั้งนี้ญาติจะนำศพ ด.ช.จตุพร ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบำเพ็ญเหนือ ในส่วนตำรวจก็ไม่นิ่งนอนใจเรื่องที่เกิดขึ้นได้มีการประชุมหารือเพื่อวางมาตรการป้องกัน ทั้งครู อาจารย์ ผู้ปก ครอง ในสถาบันเป้าหมาย มีมาตรการเข้มงวดมาโดยตลอด รวมทั้งเรื่องการตรวจค้นอาวุธตามสถาบันต่างๆ ก็ดำเนินการโดยตลอด แต่เด็กที่ก่อเหตุและถูกจับกุมเหล่านนี้มักมีการรวมกลุ่มภายนอกสถาบัน อย่างไรก็ตามอาจารย์ และผู้ปกครองน่ามีส่วนรับผิดชอบด้วย เพื่อจะได้ใส่ใจในพฤติกรรมของนักเรียนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้จะต้องเอาผิดกับผู้ปกครองด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า คิดว่าพฤติกรรมของนักเรียนเหล่านี้บางส่วนพ่อแม่ก็น่าทราบ ก็ได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับการ สน.มีนบุรี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับส่วนนี้ เนื่องจากมีกฎหมายรองรับอยู่ ผู้ปกครองบางรายเมื่อเห็นลูกออกจากบ้านก็ทราบเพียงว่าไปเรียน แต่หากพบว่ารู้พฤติกรรมแต่ไม่มีการดูแลทางตำรวจก็เตรียมดำเนินคดีด้วย

ต่อมา เวลา 11.00 นางอังศุ ขำวงศ์ อายุ 39 ปี และด.ช.ปฐมพร ผลผกา อายุ 11 ปี พี่ชายพร้อมญาติเดินทางมารับศพ ด.ช.จตุพร เพื่อนำศพไปบำเพ็ยกุศลที่วัดบำเพ็ญเหนือ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้านางอังศุ และ ด.ช.ปฐมพร ร้องไห้ทันทีที่เห็นศพลูกและน้องชาย

นางอังศุกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ไม่อยากให้คนร้ายไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก จากนั้นก็ขึ้นรถนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบำเพ็ญเหนือ ย่านมีนบุรี

ที่มาของข้อมูล

http://www.komchadluek.net/detail/20100902/71879/จับช่างกลยิงเด็กป.3ดับอ้างไม่ได้ตั้งใจ.html
ข่าวนี้อ่านแล้วบอกคำเดียวว่า บ้านเมืองนี้ กฏหมายมันไร้ซึ่งความหมายกันแล้วหรือยังไง...........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น