วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ดราม่าอีกแล้ว : เสียงก้อง-ดอกไม้-น้ำตาในเรือนจำ ณัฐวุฒิ นำแสดง..."พี่น้อง...อย่าร้องไห้ ผมใจเข้มแข็ง เราไม่ทิ้งกัน"...




เสียงก้อง-ดอกไม้-น้ำตาในเรือนจำ "ณัฐวุฒิ" ปราศรัยปลุกขวัญสาวกแดง "พี่น้อง...อย่าร้องไห้ ผมใจเข้มแข็ง เราไม่ทิ้งกัน"

ประชาชาติธุรกิจ

โลกภายนอกเรือนจำ เคลื่อนไป ข้างหน้ารวดเร็ว-ซับซ้อนเกินกว่า 7 แกนนำ นปช.จะรับรู้

อดีตแกนกลางการเคลื่อนไหว "แดง" ทั้งแผ่นดิน กลายเป็นแกนที่รอวันหมุนตาม

เมื่อ จู่ ๆ ชื่อ พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เคยออกมาประกาศว่าจะเดินหน้า-ลงมือเจรจา เพื่อความปรองดอง บุกไปประชิดตัวถึงในตารางสี่เหลี่ยม

วรรค ทอง-วาระสำคัญ ที่คีย์แมนการเมือง สื่อสาร-ส่งข่าว อธิบายเบื้องหลัง-เบื้องหน้าของการเจรจาใน คุกแดง มีความหมายครอบคลุมทั้งเรื่องการอภัยโทษ-ปล่อยตัว และสิทธิของคนเสื้อแดง และ "รัฐบาลต้องพิจารณา"

72 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น...แคมเปญของคนเสื้อแดงถูกจัดขึ้นหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

คน เสื้อแดงประมาณ 500 คน มารวมตัวกันวางดอกกุหลาบสีแดงหน้าประตู เรือนจำ พร้อมส่งเสียงตะโกนด่าทอ รัฐบาลและเสียงตะโกนให้กำลังใจแกนนำ ที่อยู่ในคุก บางครั้งเลยเถิดถึงขั้นดันแถวเข้ามาโยนดอกไม้ ทำเอาประตูรั้วเรือนจำสั่นไหว

เสียงขานชื่อ "นักโทษ" สลับกับเสียงปลุกปลอบขวัญผู้มาให้กำลังใจ

ทูตเสื้อแดง-ภรรยาของ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ทำหน้าที่เจรจากับสาวกเสื้อแดงข้างนอกก่อนเข้าเยี่ยมสามี

ด้วยข้อจำกัดของเรือนจำ จำนวนคนเข้าเยี่ยม-เห็นหน้า-เห็นตัวเป็น ๆ ของ "ณัฐวุฒิ" จึงเต็มจำนวน เต็มพิกัด เท่าที่ถูกกำหนด

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" เป็น 1 ในจำนวนจำกัด

จึง เห็นภาพ-เสียงที่ทุลักทุเลของบรรดาสาวก-แม่ยกโผเข้าหากันและกัน และส่งเสียงสนทนาที่ต่างฝ่ายต่างพูดแทบฟัง ไม่ได้สรรพผ่านรูเล็ก ๆ บนแถบแผ่นโลหะ

คำแม่ยกมีทั้งข่าวสารสด ๆ ร้อน ๆ แจ้งจำนวนมวลชนที่ร่วมใจไปวางดอกไม้หน้าเรือนจำ

"ณัฐวุฒิ" และแกนนำทุกคนรูปร่างผอมลงอย่างเห็นได้ชัด

"น้ำหนักลดลงไป 6 กิโล เพราะออกกำลังกายทุกวัน ชกมวยทุกวัน" ณัฐวุฒิอธิบายรูปกายที่เปลี่ยนไป ทำให้เหล่าสาวกตื้นตันน้ำตาคลอเบ้า

ณัฐวุฒิ-ปลอบคนเข้าเยี่ยมว่า "อย่าร้องไห้ สภาพจิตใจผมไม่มีปัญหา อยู่ในนี้จิตใจยังเข้มแข็งตลอดเวลา"

คน ข่าว-ถามทุกข์-สุข และเรื่องราวประเด็นข่าวนอกคุก ทั้งเรื่องแผนปรองดอง-แผนเพื่อไทย "ณัฐวุฒิ" ตอบได้แต่เพียงว่า "ไม่รู้เรื่องมากนัก" พร้อมออกตัวว่า "ไม่อยากแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะเกรงว่าจะทำให้ทางเรือนจำเดือดร้อน"

"เวลามีคนมาเยี่ยม มาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้รับฟัง และให้กำลังใจ...ฝากความคิดไปบ้างเท่าที่จะทำได้ พยายามบอกพี่น้องให้เข้มแข็ง ยืนหยัดหลักการ สันติวิธีให้เกิดประชาธิปไตย"

ส่วนข้อถกเถียงในโลกภายนอกคุกที่ว่า นปช. (แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) กับพรรคเพื่อไทย ใครจะนำใครกันแน่ ?

"ณัฐวุฒิ" บอกว่า "ประชาธิปไตยนำ ทั้ง 2 องค์กรนี้ไปด้วยกัน ทั้งเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครเดินตามใคร แต่ทั้ง 2 ส่วนเดินตามหลักการประชาธิปไตย และสังคมไทยก็ควรจะได้เดินไปในแนวทางนี้เช่นกัน"

ส่วนคำถามถึงแผน ปรองดองและ ความหวังที่จะได้ประกันตัว "ณัฐวุฒิ" ปฏิเสธว่าไม่ทราบรายละเอียด รวมทั้งยังไม่ทราบว่าจะได้รับการประกันตัวหรือเกือบได้ประกันตัวจากแผน ปรองดอง นอกคุกหรือไม่

นักข่าวชวนสนทนาประเด็นร้อนว่า การนอนคุกของเขาสะท้อนผลแพ้หรือชนะ ของม็อบแดง เขาตอบว่า "เราไม่ได้ทำเพื่อให้เกิดผลแพ้หรือชนะ แต่ทำเพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่ความแพ้หรือชนะ ของใคร"

เขาอธิบายสถานการณ์ส่วนตัวของเขา และผลที่เกิดกับแกนนำทั้ง 7 คนที่ยังยืน อยู่ในคุกว่า "เป็นเพราะประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย"

คำถามเชิงปรารภ ชวนปะทะทางความคิด ที่ว่า "ณัฐวุฒิ" อยู่จุดไหนของกระบวนการเคลื่อนไหวไปสู่เป้าหมายของคนเสื้อแดง เขาตอบแต่เพียงว่า

"ผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องการประชาธิปไตย และจะเป็นคนหนึ่งในกระบวนการนี้จน สุดทาง..."

แม้ การไร้อิสรภาพยาวนานกว่า 100 วัน โดยไม่รู้อนาคตว่าจะได้รับการปล่อยตัว เมื่อไร และมีกระบวนการอย่างไร เพื่อให้พ้นคุก แต่แกนนำ "นปช.-ณัฐวุฒิ" ไม่เคยหมดพลัง-หมดกำลังใจ

"สิ่งที่จะลดลงไปก็คือ วัน เวลาที่จะได้ทำภารกิจร่วมกับข้างนอก แต่ขวัญและกำลังใจของพวกเราไม่ลด เราต้อง เข้มแข็งเพื่อพี่น้องทุกคน แกนนำข้างใน คุกดูแลกันและกัน ความเข้มแข็งของเราจะเป็นกำลังใจให้คนข้างนอกตลอด เวลา"

ยามว่างเว้นจากห้วงคำนึงถึงครอบครัว "ณัฐวุฒิ" ลงมือใช้ความรู้-ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวในฐานะ "นักกลอน" แต่งเพลงเพื่ออนาคต

"วันนี้ ผมตั้งใจจะเขียนเพลงเพื่อบันทึกความรู้สึกในวันนี้ วันที่พี่น้องเสื้อแดงเอาดอกไม้มามอบให้ ผมหวังว่าดอกไม้ที่เอามาวันนี้จะได้ส่งความรู้สึกผูกพันของคนเสื้อแดงไปถึง ทุกชีวิตที่จากไป"

"ถ้าวันนี้พี่น้องเสื้อแดงทำกิจกรรม มอบดอกไม้ให้ผมและแกนนำข้างใน เรือนจำ... ผมก็ขอเป็นตัวแทนจาก คนเสื้อแดงในเรือนจำ...ส่งมอบต่อไปให้ แก่ผู้เสียชีวิต รวมทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทุกคนพร้อมครอบครัว ผมอยากบอกว่า ผมรักพวกเขา เราไม่ทิ้งกัน..."

เสียงผู้คุมประกาศ "หมดเวลาเยี่ยม" ทั้งแกนนำ-สาวก-แม่ยก และภรรยาคู่ชีวิตของ "ณัฐวุฒิ" และภรรยา 7 แกนนำ นปช.ต่างทยอยกลับ

ภาพหน้าคุกมีการนำดอกกุหลาบสีแดง พร้อมกระดาษข้อความ จดหมาย เสียบไว้ตลอดแนวรั้วคุก

72 ชั่วโมงก่อนถึงวันครบรอบ 4 ปี 19 กันยา วาระ 4 เดือน จากราชประสงค์ มีทั้งดอกไม้และน้ำตา


***********************************************

ความเห็น

ณัฐวุฒิ เลือกที่จะใช้ความรู้และความสามารถ รับใช้ทักษิณ นั่นคือสิ่งที่เขาเลือกแล้ว คำพูดที่ว่า"อาจารย์เคยเห็นเงินร้อยล้านมั๊ย"เสมือนเป็นคำตอบแทนการกระทำของณัฐวุฒิ

ณัฐวุฒิ เป็นคนใต้ที่คนใต้ด้วยกันชิงชังเป็นอย่างยิ่ง แค่คนเหนือ และ คนอีสาน ที่ผูกพันกับทักษิณ ชินวัตร ถือว่าณัฐวุฒิเป็นฑูตพิเศษของนายใหญ่ที่รับโองการมา เพื่อปัดเป่าความเดือดร้อนให้พวกเขา คำปราศัยที่ว่า"พี่น้อง เผาเลย ผมรับผิดชอบเอง" ซึ่งม็อบแดงก็ได้ทำตามไปแล้ว

ณัฐวุฒิเป็นแค่เด็กเมื่อวานซืน แต่บังอาจใช้คำพูดสาดใส่ ให้ร้าย พลเอกเปรม ที่สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศมามากมาย ด่าทอองคมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้า อย่างไม่เกรงกลัวความผิดใดๆ กับคำปราศัยที่ว่า"คนเสื้อแดงจะบอกดินบอกฟ้าว่าคนอย่างข้าก็มีหัวใจ คนเสื้อแดงจะบอกดินบอกฟ้าว่าข้าก็คือคนไทย คนเสื้อแดงจะถามดินถามฟ้าว่า ข้าไม่มีที่ยืนที่สมคุณค่าจะถามดินถามฟ้าว่าจะให้ข้าหาที่ยืนเองหรืออย่างไร" ณัฐวุฒิต้องการอะไร สื่อไปยังใคร คำพูดนี้มาจากสามัญสำนึกของณัฐวุฒิ หรือเพียงการประดิษฐขึ้นมาเพื่อประชดประชัน

ประชาธิปไตย ในความหมายของณัฐวุฒิคืออะไร 2 ปี ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างไร ความหมายจากคำพูดณัฐวุฒิ คืออะไรหรือ ประชาธิปไตยโดยการจูงใจใช้จ้างวาน ประชาธิปไตยที่ทำเพื่อคนๆ เดียว นี่คือสิ่งที่ต้องการใช่มั๊ย คนอย่างณัฐวุฒิ ใช่ว่าจะเป็นที่รักของครอบครัว มวลชนเสื่อแดง แต่ความเกลียดของคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามก็มี ณัฐวุฒิจะทำให้ความรักและความเกลียด ผสมผสานได้อย่างลงตัวได้อย่างไร ในเมื่อคุณยังทำเพื่อตนเอง ทิ้งศักดฺ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ไปรับใช้นายทุน ที่ต้องการทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปตามต้องการของตน คุณไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์แก่ชนชาวเสื้อแดงที่คุณนำมาเพื่อเป็นโล่ห์กำบังให้แก่คุณและพวกพ้องเลย


ทนายเบิ้ม ณ สัมมากร

ที่มา http://www.oknation.net/blog/hardcorelawyer/2010/09/23/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น