เลือกตั้ง!!

เมื่อวานทุกท่านได้ไปเลือกตั้งกันมาหรือป่าวครับ ตัวผมนั้นได้ไปเลือกมา แต่ผลคะแนนที่ออกมา คนที่ผมเลือกไม่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาเลย แย่จัง... แต่เอาเถอะครั้งหน้า ยังมี ก็ว่ากันไปจริงมั้ยครับทุกท่าน

ข่าวคราวทางการเมืองกันซักนิด

• ภาพประกอบข่าว

คมชัดลึก : เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีเรื่องราวที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

แต่เพราะว่าก่อนงานนี้ก็มีเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับแนวนโยบายของ รมช.ศึกษาธิการ เรื่องของการให้ผู้บริหารการศึกษาสอดส่องดูแลเรื่องการแสดงความคิดเห็นของนักศึกษา โดยเฉพาะในเรื่องของละครนักศึกษาต่างๆ (ซึ่งผมก็ได้ให้ความเห็นไปในสื่อบางฉบับไปแล้วในช่วงนั้น) ก็เลยต่อเนื่องมายังบทความนี้

โดยสรุปก็คือ ผมคิดว่า "การเมืองเรื่องความเกร็ง" แบบนี้แหละครับที่จะนำไปสู่ความถดถอยของความชอบธรรมของรัฐบาลปัจจุบัน ทั้งที่ตัวนายกรัฐมนตรีเองอาจจะไม่ได้คิดมากเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและตัวของเขา เพราะผมเชื่อว่าคนระดับนายกฯ เองนั้นเชื่อมั่นในคารม และความรู้ของตัวเขาเอง ในการปะทะคารมกับคนทุกคนมาโดยตลอด

มิหนำซ้ำ การปล่อยให้มีการแสดงความคิดเห็นต่างๆ โดยเฉพาะในหมู่นักศึกษานั้น จะยิ่งทำให้นายกฯ สร้างภาพกับต่างประเทศได้ และสามารถเพิ่มอำนาจต่อรองกับหน่วยงานด้านความมั่นคงได้มากขึ้น ซึ่งวิธีการบริหารงานบนโต๊ะประชุมนี้เป็นเกมที่นายกรัฐมนตรีนั้นถนัดในการ "กระชับอำนาจ" มาโดยตลอด

คนรอบข้างนายกฯ นั่นแหละครับ กลับสร้างปัญหาให้แก่นายกฯ โดยไม่รู้ตัว และทำให้เรื่องที่เล็กๆ กลายเป็นเรื่องที่สะสมกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกรณีการกระชับพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งที่จุดมุ่งหมายหลักของการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ในเขต กทม.นั้น น่าจะเกี่ยวโยงกับเรื่องของการป้องกันหรือลดแรงจูงใจในการก่อให้เกิดการชุมนุมขนาดใหญ่

เรื่องไม่น่าเชื่อก็คือ การเคลื่อนไหวของนักศึกษา และชนชั้นกลางในเมืองกลุ่มที่ไม่เอากับรัฐบาลนั้นกลับมีความแหลมคมขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเรื่องของกลุ่มแกนนอนวันอาทิตย์ และกลุ่มนักศึกษาต่างๆ

การต่อสู้แบบนี้ในทางหนึ่งอาจจะถูกวิจารณ์ว่าไม่มีขนาดใหญ่พอ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การเมืองแบบนี้กลับทำให้ภาพของการต่อต้านระบอบกระชับพื้นที่ที่ดำรงอยู่นั้นถูกท้าทายในกรอบของสันติวิธีมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้สื่อกระแสหลักนั้นสามารถที่จะทำงานกับการเคลื่อนไหวแบบนี้ได้อย่าง "มืออาชีพ" ได้มากขึ้น

ในแง่ที่ว่า แม้ทางหนึ่งสื่อมวลชนก็อาจจะมีจุดยืนและทัศนะของตัวเอง แต่ในอีกทางหนึ่งสื่อมวลชนก็พยายามที่จะรักษาไว้ซึ่งความเป็นมืออาชีพเช่นกัน เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย มากกว่าถูกวิจารณ์ว่าเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งจะเป็นการลดความน่าเชื่อถือของสื่อลงในภาพรวม

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวทางการเมืองของนักศึกษาซึ่งกลับมามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในช่วงนี้ก็ควรจะต้องพิจารณาถึงเป้าหมายของการเคลื่อนไหวด้วย แม้ว่าในเชิงวิธีการแล้วการเคลื่อนไหวนั้นจะเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น และมีพื้นที่ข่าวมากขึ้นแล้วก็ตาม

นั่นก็คืออาจจะต้องแยกการเคลื่อนไหวออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรกก็คือการคืนพื้นที่ประชาธิปไตยให้แก่สังคม โดยตรวจสอบตัวแสดงทางการเมืองทุกฝ่าย และทำให้กฎ กติกา ประชาธิปไตยได้รับการปฏิบัติตาม อาทิการเร่งรัดการค้นหาความจริงในเรื่องของการสลายการชุมนุม/กระชับพื้นที่ และทำให้หลักนิติธรรมสามารถทำงานได้กับทุกกลุ่ม ซึ่งการเคลื่อนไหวแบบนี้จะทำให้สังคมเริ่มหันมายอมรับและอยู่ด้วยกันมากขึ้น เพราะกติกาประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และสันติวิธีนั้น เป็นกติกาที่ทุกฝ่ายพบว่ามีต้นทุนสูงมากที่จะละเมิด และมักถูกวิจารณ์ในกรณีที่อธิบายการละเมิดหลักการเหล่านั้นด้วยคำอธิบายโง่ๆ เพื่อการแถไปเรื่อยๆ

ส่วนการเคลื่อนไหวในส่วนที่สอง ย่อมเป็นไปได้ที่นักศึกษานั้นย่อมมีจุดยืนและทัศนะทางการเมืองของตนเอง และย่อมเป็นไปได้ที่เอกภาพในการแสดงความคิดเห็นในส่วนนี้นั้นแตกต่างกันไป นักศึกษาก็ย่อมมีสีของตนเองได้

แต่กระนั้นก็ตาม ผมก็ยังคิดว่าการเคลื่อนไหวของนักศึกษานั้นอาจจะเป็นพื้นที่สำคัญที่จะทำให้สังคมนั้นเริ่มตั้งสติกันมากขึ้น อย่างน้อยในระดับของการเริ่มยอมรับกฎกติกาตรงกัน ในความหมายของการตรวจสอบและติดตามผลกฎกติกาที่มีอยู่ รวมทั้งตัวผู้ที่ควบคุมกำหนดกฎกติกาด้วย และทำให้นักศึกษาได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย เพราะเขาเริ่มต่อสู้ให้ทุกฝ่ายยอมรับกันเองมากขึ้นเพราะทุกฝ่ายมีที่ยืนมากขึ้น

ส่วนในระดับของการนำเสนอแต่จุดยืนของตัวเองนั้นถ้าอยู่ในแนวทางสันติวิธี ก็น่าจะเป็นเรื่องที่พวกเขาย่อมต้องรับผิดชอบต่อความน่าเชื่อถือและวุฒิภาวะของเขาเองครับ

ที่มา

http://www.komchadluek.net/detail/20100824/70904/นักศึกษากับการเมืองยุคกระชับพื้นที่.html

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 10

ทีนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายของเรื่องราวสมุนไพรไทย แล้วนะครับ หวังว่าข้อมูลที่ผมได้นำมานี้จะมีประโยชน์แก่ทุกๆท่านที่ได้เข้ามาชมนะครับ

โทงเทง แก้ฝีในคอ แก้อาการฟกช้ำบวม แกร้อนในกระหายน้ำ

ใบแมงลัก แก้ตานทราง แก้ลำไส้พิการ ขับลม

ใบหมากผู้ แก้ไข้ แก้อาการตัวร้อน

รากสังกรณี แก้ไข้ ร้อนในกระหายน้ำ

กาบสิงหะโมรา แก้โรคโลหิตจาง บำรุงโลหิต เจริญอาหาร

ต้นน้ำนมราชสีห์ แก้ระบบทางเดินปัสสาวะให้ปกติ ปัสสาวะแดง

โด่ไม่รู้ล้ม แก้ไข้จับสั่น แก้อาการปัสสาวะไม่ปกติ กระตุ้นความรู้สึกในเรื่องเพศ

รากขัดมอน แก้อาการตัวร้อน แก้ไข้

ต้นพรมมิ ใช้ขับโลหิตระดู

ใบพรมมิ ใช้ขับเสมหะ

ดอกพรมมิ ฟอกระดูให้เป็นปกติ

ใบโหระพา แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้อาการอาหารไม่ย่อย ขับลม

เมล็ดโหระพา แก้โรคบิด ระบายท้อง

โหระพาทั้ง ๕ แก้ตานทรางในเด็ก แก้เด็กผวาเวลานอนหลับ

รากหุ่นไห้ แก้อาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว แก้อาการเหน็บชา แก้เส้นเอ็นพิการ

อุโลกเครือ แก้ฝีในลำคอ ขับปัสสาวะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=9

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 9

หญ้าเอ็นยืด แก้เส้นเอ็นพิการ ขับปัสสาวะ แก้อาการกามตายด้าน

หญ้ากระต่ายจาม แก้อาการอาเจียนเป็นเลือด แก้อาการช้ำในโลหิตคั่ง

หญ้าเกล็ดหอย แก้อาการร้อนใน แก้ไข้ แก้อาการกระหายน้ำ

หญ้าเกล็ดหอยจีน แก้อาการปวด แก้ฝี ดับพิษร้อน

เมล็ดต้อยติ่ง แก้อาการเจ็บปวดของแผลเรื้อรัง ดูดหนอง

ต้นหญ้าดอกขาว แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

ใบหญ้าดอกขาว แก้ตาอักเสบ ตาฟาง สมานแผลได้ดี

หญ้าตีนนก แก้ไข้ บำรุงธาตุ แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ

หญ้าตีนกา แก้ไข้ แก้ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดแสบปวดร้อน

ต้นหญ้าไซ แก้โลหิตเสียในสตรี ฟอกโลหิต ขับปัสสาวะ

รากหญ้าคา แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ แก้อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร แก้ดีซ่าน แก้ระบบทางเดินปัสสาวะ

หญ้าถอดปล้อง แก้อาการมีระดูขาวมาก บำรุงไต ขับปัสสาวะ

หญ้าน้ำดับไฟ แก้อาการปวดศีรษะ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้หวัด พอกฝี แก้อาการพุพอง

รากหญ้าน้ำดับไฟ แก้พิษสุนัขบ้า

ต้นหญ้าพันงูแดง ขับปัสสาวะ แก้ประจำเดือนไม่ปกติ

ใบหญ้าพันงูแดง แก้อาการเป็นเม็ดในลำคออักเสบ

ดอกหญ้าพันงูแดง แก้อาการเสมหะในคอ

รากหญ้าพันงูแดง แก้อาการปัสสาวะ กะปริดกะปรอย

หญ้าพันงูทั้ง ๒ ขาวแดง แก้ฝี แก้ไข้ เจริญไฟธาตุ

หญ้าพันงูขาว แก้ร้อนในกกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ

ต้นหญ้างวงช้าง แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ทราง

หญ้าใต้ใบ แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้ดีซ่าน แก้ไอ แก้ฝี

หญ้าหนวดปลาดุก แก้ไข้ แก้หอบหืด แก้ไอ

หญ้าหนวดแมว แก้กระษัย ไตพิการ ขับปัสสาวะ แก้ปวดเมื่อย

หญ้าพองลม แก้ร้อนในกระหายน้ำ ดับพิษต่าง ๆ

ต้นกระทืบยอด แก้ไข้ ขับปัสสาวะ แก้ระบบทางเดินปัสสาวะให้เป็นปกติ แก้แผลเรื้อรัง

รากกระทืบยอด แก้นิ่ว แก้หนองใน

ต้นกกลังกา แก้โรคในช่องปากทั่วไป

รากกกลังกา แก้ช้ำใน

หัวกกลังกา บำรุงธาตุ เจริญอาหาร

เมล็ดต้อยติ่ง แก้แผลเรื้อรังดูดหนอง

ต้นขลู่ แก้ระบบทางเดินปัสสาวะไม่ปกติ ขับปัสสาวะ

เปลือกตันขลู่ แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงจมูก

ใบจันทร์หอม แก้ปวดท้อง แก้อาการจุกเสียด แน่น ขับลม แก้ธาตุพิการ ขับระดู

ที่มาของข้อมูล http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=8

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 8

สมุนไพรยังมีอีกประเภทหนึ่ง นั่นก็ได้แก่ สมุนไพรที่เป็นจำพวก “ ผัก ” ต่าง ๆ นั่นเอง สมุนไพรที่เป็น “ ผัก ” ก็มีอยู่ด้วยกันมากมายทีเดียว

ขอแนะนำท่านผู้สนใจอีก ดังต่อไปนี้

ผักกาดน้ำ ใช้ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อถอนพิษ

เมล็ดผักชีล้อม ขับลมในลำไส้ แก้ธาตุพิการ แก้หอบหืด แก้ไอ

ผักบุ้ง แก้โรคตาฟาง ถอนพิษเบื่อเมาได้

ผักเป็ดแดง ดับพิษโลหิต

ผักปลัง แก้พิษฝีดาษ

ใบผักปลัง แก้หนองใน แก้ท้องผูก แก้มือเท้าด่าง

ผักเสี้ยนไทย แก้โลหิตเสีย

ใบผักเสี้ยนไทย ขับเสมหะ

ดอกผักเสี้ยนไทย แก้โลหิตสตรีให้เป็นปกติหลังคลอด

ผลผักเสี้ยนไทย กำจัดไส้เดือนในลำไส้

รากผักเสี้ยนไทย แก้ลม

บัวบก บำรุงหัวใจ แก้อาการอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย ลดความดันโลหิตสูง

ผักขวง บำรุงน้ำดีให้เป็นปกติ

ผักปลังแดง แก้ลม แก้ไอ แก้ปวดเมื่อย

ผักหวานตัวผู้ แก้โรคตาอักเสบ แก้กำเดาออก

รากผักหวานบ้าน แก้โรคคางทูม แก้ไข้กลับซ้ำ

รากผักหวานป่า แก้ตับอักเสบ ดับพิษร้อน

ต้นผักเสี้ยนผี แก้ฝีในปอด ลำไส้ และในตับ

ต้นหูปลาช่อน แก้ผดผื่น แก้อาการตัวร้อนเป็นไข้

สมุนไพรอีกประเภทหนึ่ง ก็ได้แก่ สมุนไพรจำพวก “ หญ้า ” ต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งก็มีสรรพคุณทางยามากมายเช่นเดียวกัน

พืชสมุนไพรที่เป็นจำพวกหญ้าทั้งหลายนั้น อาจจะขึ้นเป็นกอก็มี กอเล็กบ้างกอใหญ่บ้าง สูงบ้าง ไม่สูงบ้าง

สมุนไพรที่เป็นประเภท “ หญ้า ” นั้น ก็ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาที่ดีมากเช่นเดียวกัน เพราะบางชนิดก็เอาไปปรุงเป็นยาอายุวัฒนะได้อีกด้วย เช่น หัวของหญ้าแห้วหมู เป็นต้น

สมุนไพรประเภท “ หญ้า ” มีมากมายอีกเช่นเดียวกัน ดังจะได้ยกเอาบางส่วนมาแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้ โดยเฉพาะหลายชนิดนั้นเอามาทำเป็นตัวยาอบสมุนไพรได้ดี เพียงแต่ว่าจะมีผู้ใดกำหนดและเลือกมาใช้ประโยชน์เท่านั้นเอง

หญ้าแพรก แก้อาการอักเสบ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ เป็นสมุนไพรถอนพิษ อาการเจ็บปวด แก้อาการตกเลือดของสตรี

ดอกหญ้าแพรก แก้อาการเป็นไข้

รากหญ้าแพรก แก้ฝีดาษ

ผลหญ้าแพรก แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน

ข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=7

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 7

หายกันไปซะหลายวันเลยผม พอดีมีงานด่วนเข้ามาหลายๆอย่างเลยไม่ได้เข้ามาอัพเลย T_T

มาต่อกันเลยดีกว่านะครับ สำหรับเรื่องดีๆมีประโยชน์ของสมุนไพรไทย

ดอกกระวาน แก้ตาแฉะ ตามัว แก้เจ็บ เคืองตา

หัวและหน่อกระวาน ขับพยาธิจากในเนื้อเยื่อให้ออกมาตามผิวหนัง

หัวกระเทียม แก้ไอ แก้ไข้ แก้โรคผิวหนังบางชนิด เช่น กลาก เกลื้อน แก้ริดสีดวงอก ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน ขับเสมหะ แก้อาการสะอึก แก้อาการช้ำ บวม แก้ปวดมวนในท้องไส้

หัวกลอย แก้เถาดานในท้อง

หัวกระแตไต่ไม้ แก้นิ่ว แก้ไตพิการ แก้เบาหวาน ขับพยาธิ ขับปัสสาวะ แก้ระบบทางเดินปัสสาวะไม่ปกติ

ใบกระแตไต่ไม้ แก้แผลพุพองเรื้อรัง

หัวคล้ำหรือคลุ้ม แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไข้รากสาด สุกใส

หัวคูณ แก้ไข้ รักษาฝีหนอง ดับพิษร้อน

หัวเสลดพังพอน แก้พิษงู ถอนพิษ สัตว์กัดต่อย

หัวเปราะป่า แก้ไข้ แก้หวัด ขับลม

หัวปรงบ้าน แก้งูสวัด แก้ไฟลามทุ่ง เริม

หัวผักหนาม แก้อาการไอ แก้เจ็บในคอ แก้อาการคันเพราะพิษไข้ ขับเสมหะ

ใบมหากาฬ แก้ฝี ถอนพิษ

หัวมหากาฬ แก้ไข้ แก้พิษอักเสบต่าง ๆ

หัวพุทธรักษาดอกแดง แก้อาเจียน แก้ไอเป็นเลือดบำรุงปอด

หัวว่านชักมดลูก แก้มดลูกพิการอักเสบช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น สำหรับสตรีหลังคลอด

หัวว่านเพ็ดน้อย แก้กระษัย แก้โรคที่เกิดในถุงอัณฑะบุรุษ ขับระดูขาว แก้อาการกระตุกเนื่องมาจากประสาทพิการ

หัวว่านมหาเมฆ แก้มดลูกอักเสบ ช่วยให้มดลูกยุบตัวเข้าอู่เร็วสำหรับสตรีหลังคลอด

หัวว่านสากเหล็ก แก้มดลูกเคลื่อนจากที่เดิมให้เข้าที่

หัวหอมแดง แก้หวัดคัดจมูก ขับลม

รากกระชาย แก้ใจสั่น ขับระดูขาว แก้โรคในช่องปากอักเสบ

หัวขมิ้นชัน แก้ไข้ แก้ท้องอืดเฟ้อ สมานแผล

หัวขมิ้นอ้อย แก้ไข้ แก้บวม แก้ปวดท้อง แก้เคล็ดขัดยอก

หัวข่าอ่อน ขับลม

หัวข่าแก่ แก้อาการปวดมวนในท้อง

หัวข่าตาแดง แก้อาการฟกช้ำ แก้พิษ ขับลม

ใบข่าตาแดง แก้บิดเรื้อรัง

ดอกข่าตาแดง แก้เกลื้อน

หัวขิง แก้ลมจุกเสียด ขับเสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นเหียนอาเจียน

หัวและรากเต่ารั้ง แก้โรคหัวใจพิการ ดับพิษ ตับปอด

หัวแห้วหมู บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ บำรุงครรภ์

หัวถั่วพลู แก้อาการอ่อนเพลียละเหี่ยใจ สร้างความสดชื่นให้ เพิ่มพละกำลัง

หัวบัวบกป่า แก้ลม แก้ปวดเมื่อย บำรุงธาตุ

หัวไพล แก้ฟกช้ำบวม แก้ปวดท้อง แก้บิด แก้เหน็บชา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=6

ดูกันหรือยังครับ !!!

ล่าสุดผมเพิ่งได้เห็นคลิปวีดีโอบน youtube ของตำรวจไทย ที่ดูแล้วก็อดที่อมยิ้มไม่ได้น่ะครับ เลยเอาแบ่งปันกัน^^

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 6

ข้อมูลดีๆมีประโยชน์ สำหรับทุกท่านครับ^^

รากและเถารางจืด แก้ร้อนใน ถอนพิษร้อน

ลิ้นมังกร แก้พิษงู

เถาเล็บรอก แก้อาการอ่อนเพลียละเหี่ยใจ แก้ไข้ บำรุงหัวใจและบำรุงประสาท

ต้นหวายตะค้า แก้ชัก แก้หืดหอบ แก้ไข้ แก้ร้อนใน

เถาสะค้าน แก้ลมที่เกิดในลำไส้ แก้อาการจุกเสียด

ใบสะค้าน แก้ลมจากเสมหะ บำรุงโลหิต

ผลสะค้าน แก้ผมแน่นในทรวงอก

รากสะค้าน แก้อาการไข้ แก้หอบหืด

ใบสลอดน้ำ แก้อาการปวดศีรษะ แก้โรคตาอักเสบ แก้ริดสีดวงจมูก

ผลสลอดน้ำ แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน

เปลือกสลอดน้ำ ใช้ขับเสมหะ

เมล็ดสลอดน้ำ แก้ปวดเมื่อย แก้กระษัย แก้ระบบทางเดินปัสสาวะ บำรุงประสาท

ใบสวาด แก้อาการจุกเสียดแน่น ขับลม

ลูกสวาด แก้กระษัย แก้ระบบทางเดินปัสสาวะผิดปกติ

ใบสำมะงา แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน

เถาส้มป่อย แก้โรคตา

ใบส้มป่อย แก้โรคตา แก้บิด แก้อาการเคล็ดขัดยอก

ดอกส้มป่อย แก้เส้นเอ็นพิการ

ผลส้มป่อย แก้รังแค แก้ไข้จับสั่น แก้อาการไอ รักษาแผลโรคผิวหนัง ขับเสมหะ

รากส้มป่อย แก้ไข้

ใบหนุมานประสานกาย แก้ไอ ห้ามเลือด สมานแผล

เถาหางไหลแดง แก้เลือดเสีย ( ขับออก ) บำรุงโลหิต ขับเสมหะ

รากอัญชันป่า แก้พิษสุนัขบ้า ถอนพิษร้ายต่าง ๆ

รากอบเชยเถา ขับลมในลำไส้ แก้อาการปวดมวนในท้องไส้ แก้ลม บำรุงหัวใจให้สดขึ้นได้ดี

นอกจากนี้ก็ยังมีสมุนไพรอีกประเภทหนึ่ง เป็นสมุนไพรที่มีหัวนั่นเอง

“ หัว ” ของสมุนไพรพวกนี้ก็มีสรรพคุณทางยาดีมาก แพทย์แผนโบราณจะเอา “ หัว ” หรือเหง้ามาใช้ประโยชน์กันมาก

มีอะไรบ้าง ขอยกเอามาแนะนำบ้างพอสมควร ดังต่อไปนี้

หัวหรือเหง้ากะทือ ขับปัสสาวะ แก้แน่น ขับเสมหะ แก้อาการปวดมวนในท้อง บำรุงน้ำนม สตรีหลังคลอด ขับลมได้ดี

รากกะทือ แก้ไข้ตัวเย็น

ดอกกะทือ แก้ไข้เรื้อรัง

ใบกะทือ ขับเลือดเสียสำหรับสตรีหลังคลอด

ต้นกะทือ แก้อาการเบื่ออาหาร

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=5

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 5

มาต่อภาค 5 กันเลยนะครับทุกท่าน

ใบและเถาเขี้ยวงู แก้โรคผิวหนัง

เถาโรคกระออม แก้ไข้

ใบเถาโคกกระออม แก้หืด

ดอกเถาโคกกระออม แก้โลหิตเป็นพิษ

ลูกเถาโคกกระออม แก้อาการอักเสบของไฟไหม้น้ำร้อนลวก

รากเถาโคกกระออม แก้โรคตาอักเสบ แก้พิษงู

กระออมทั้ง ๕ แก้อาการผิดปกติการหลั่งน้ำนม ทำให้มารดามีน้ำนมมากขึ้น

ใบคัดเค้า แก้อาการโลหิตซ่าน

ดอกคัดเค้า แก้โลหิตกำเดา

ลูกคัดเค้า ขับโลหิตประจำเดือนที่เสียออก บำรุงโลหิต

เถาคัดเค้า แก้ไข้ บำรุงโลหิต ขับเสมหะ

ใบชะลูดแดด กระจายโลหิต

รากชะอม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม แก้ปวดเสียดในช่องท้อง

ดอกชะเอมจีน แก้อาการคัน แก้พิษฝีดาษ

ต้นชะเอมจีน ขับลมให้ลงเบื้องต่ำ

ใบชะเอมไทย ขับระดู

ดอกชะเอมไทย ช่วยย่อยอาหาร

เถาชะเอมป่า บำรุงผิวพรรณให้สดชื่น มีสุขภาพดี

รากชะเอมป่า แก้โรคตาอักเสบ ขับเสมหะ

รากหญ้านางแดง แก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้อาการเบื่อเมา

ใบตีนเป็ดเครือหรือเถาเอ็นอ่อน แก้อาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัว

เถาตีนเป็ดเครือ บำรุงเส้นเอ็นให้สมบูรณ์แข็งแรง

เถานาคราช แก้ฝี แก้อาการบวมอักเสบ ถอนพิษสัตว์กัดต่อย

เถาลิ้นเสือ แก้ตับพิการ ตับทรุด บำรุงตับ แก้ตับเคลื่อน

ใบเถาวัลย์ปูน รักษาบาดแผลสด

เถาวัลย์ปูน ขับปัสสาวะ แก้กระษัย ขับเสมหะ แก้เส้นเอ็นพิการ

เถาทองระอาหรือเถาปล้อ แก้ประดง แก้ระบบทางเดินปัสสาวะไม่ปกติ

เถาบอระเพ็ดพงช้าง บำรุงธาตุ

ดอกบอระเพ็ดพงช้าง ทำลายเชื้อโรคเรื้อนทำให้อุจจาระละเอียด

หัวเถาบอระเพ็ดพงช้าง ขับเสมหะ

หนามบอระเพ็ดพงช้าง ขับเลือดเสีย

ลูกบวบขมสด แก้อาการคัน ขจัดรังแค แก้เหา

เมล็ดบวบขม แก้หืดหอบ ขับเสมหะ

รังบวบขมแห้ง แก้ริดสีดวงจมูก

เถาพลูแก แก้โรคผิวหนัง

ดอกพลูแก แก้โรคตา

รากพลูแก แก้เลือดและขับลม

พลูแกทั้ง ๕ แก้มะเร็ง โรคเรื้อน คุดทะราดแก้น้ำเหลืองเสีย

เถาเพชรสังฆาต แก้กระดูกหัก เดาะ ขับลม

เถารางแดง แก้กระษัย แก้กล่อนลงฝัก และกล่อนทุกชนิด ( กล่อน หมายถึง โรคชนิดหนึ่งที่เกิดกับในถุงลูกอัณฑะ )

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=4

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 4

เรื่องราวของสมุนไพรได้มาถึงครั้งที่ 4 กันแล้วนะครับทุกท่านเชิญติดตามเรื่องราวดีๆ ที่มีประโยชน์กันต่อเลยนะครับ

เปลือกสนุ่น บำรุงหัวใจ แก้ไข้ แก้หวัด แก้ริดสีดวงจมูก

รากสนุ่น แก้ตับพิการ เจริญอาหาร ดับพิษร้อน

รากเสนียด แก้ฝี บำรุงปอด บำรุงโลหิต

ดอกสมอพิเภก แก้โรคตา

เปลือกต้นสมอพิเภก ขับปัสสาวะ

แก่นสมอพิเภก แก้โลหิตเป็นพิษ

เมล็ดในสมอพิเภก แก้บิด

เมล็ดในสมอทะเล แก้ขับพยาธิไส้เดือน

รากสมอทะเล แก้โลหิตระดูพิการ

ต้นโสน ขับปัสสาวะ

ใบโสน แก้อาการปวด ถอนพิษ แก้พิษฝีอักเสบ

ดอกโสน สมานลำไส้

รากโสน แก้ร้อนในกระหายน้ำ

แก่นแสมสาร แก้กระษัย ขับเสมหะ ระบายท้อง

ใบสะระแหน่ไทย แก้อาการท้องอืดเฟ้อ แก้ปวดท้อง ขับลม

รากน้อยหน่า ยาระบาย ถอนพิษเบื่อเมา

ใบโมกมัน ขับน้ำเหลือง

ดอกโมกมัน ถ่ายท้องผูกดีมาก

ลูกโมกมัน แก้โรคไต บำรุงธาตุให้เป็นปกติ

รากต้นหางนกยูงไทย แก้อาการบวม ขับระดู

ใบแก่นอินทนิน แก้โรคทางเดินปัสสาวะผิดปกติ แก้โรคเบาหวาน

ใบอัคคีทวาร แก้ริดสีดวงทวาร

รากและต้นอัคคีทวาร แก้ริดสีดวงทวาร

ผลอัคคีทวาร แก้ไอ แก้เยื่อตาอักเสบ

ยังมีสมุนไพรอีกประเภทหนึ่ง ได้แก่ สมุนไพรที่เป็นเถาเลื้อยไปได้และสามารถเกาะติดตามต้นไม้ใหญ่หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ก็ได้

สมุนไพรประเภท “ เถา ” นี้ก็มีอยู่ไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกัน ขอเอามาแนะนำให้ทราบกัน ดังต่อไปนี้

ใบกะทกรก แก้อาการเป็นหวัดคัดจมูก แก้อาการปวดศีรษะ

เมล็ดกะทกรก ขับลม แก้เด็กท้องอืดเฟ้อ

เปลือกกะทกรก ยาชูกำลัง แก้แผลเน่าเปื่อยเรื้อรัง

เถากะทกรก แก้กามโรค

เถาคอเป็ด แก้กระษัย แก้ไข้ แก้ระบบทางเดินปัสสาวะไม่ปกติ

เถาคุคะ แก้อาการปวดเมื่อยต่าง ๆ แก้เลือดน้ำเหลืองเสีย แก้ร้อนใน

เถาโคคลาน แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย แก้กระษัยไตพิการ ขับปัสสาวะ บำรุงเลือด

รากเถาข้าวสาร แก้โรคตาอักเสบต่าง ๆ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=3

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 3

ยางมะม่วงหิมพานต์ ขจัดตาปลาที่เท้าได้

แก่นมะหาด แก้อาการจุกเสียด ท้องอืด เฟ้อ ขับลม

รากมะยมตัวผู้ แก้โรคผิวหนัง ผดผื่นคัน ขับน้ำเหลืองเสีย

ใบมะยมตัวผู้ ใช้ทำยาเขียว

ก้านและรากมะละกอ ขับปัสสาวะ

ต้นมะละกอ ขับระดูขาว

รากมะละกออ่อน บำรุงน้ำนม

ต้นมะลิ แก้โลหิตเป็นพิษ ขับเสมหะ แก้โรคคุดทะราด

ใบมะลิ แก้แผลพุพอง ฝีดาษ

รากมะลิ แก้ร้อนใน แก้เสียดท้อง

ผลดิบยอบ้าน ขับเลือดลม ขับระดู แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน แก้เหงือกอักเสบ ปวดบวม

แก่นยอป่า ขับน้ำคาวปลา ขับเลือด เหมาะกับสตรีคลอดบุตรใหม่ ๆ ฟอกโลหิต แก้อาการจุกเสียด แน่น ขับลม

ดอกยี่โถไทย บำรุงหัวใจ

ใบราชดัด แก้ฝี แก้พิษตะขาบ แมงป่อง แก้กลากเกลื้อน

ใบราชพฤกษ์ ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ

ดอกราชพฤกษ์ แก้บาดแผลเรื้อรัง

ฝักราชพฤกษ์ ขับถ่ายอาการท้องผูก

ต้นเร่วน้อย แก้อาการไข้

ใบเร่วน้อย ขับปัสสาวะ

ดอกเร่วน้อย แก้ไข้ และอาการผื่นคัน

ผลเร่วน้อย แก้ไข้ริดสีดวง แก้อาการหอบหืด แก้ไอ ขับเสมหะ ขับระดูขาว

รากเร่วน้อย แก้หอบหืด

ต้นเร่วใหญ่ แก้อาการคลื่นเหียน

ใบเร่วใหญ่ แก้ปัสสาวะพิการ

ดอกเร่วใหญ่ แก้ผดผื่นคัน

ผลเร่วใหญ่ แก้ไข้ แก้ริดสีดวงทั้ง ๙

รากเร่วใหญ่ แก้อาการไอ หืด

เมล็ดเร่วใหญ่ แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน ขับลม ขับน้ำนม

รากต้นลำใย ขับเสมหะ

ใบลาน แก้อาการฟกช้ำดำเขียว แก้พิษอาการอักเสบต่าง ๆ

รากลาน แก้พิษตานทราง แก้ร้อนใน ขับเหงื่อ แก้ไข้หวัด

รากโลดทนงแดง แก้อาการหอบหืด แก้พิษงู แก้ฝีต่าง ๆ ถอนพิษ

ใบว่านหางจระเข้ แก้อาการปวดศีรษะ

ยางต้นหางจระเข้ยักษ์ ขับระดู ขับปัสสาวะ

รากต้นหางจระเข้ยักษ์ ขับปัสสาวะ แก้กามโรคที่เป็นแผล

ใบว่านหอยแครง แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการฟกช้ำ แก้บิด แก้ไอ

ต้นไมยราบ ขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ แก้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ขับระดูขาว

ใบสนุ่น แก้อาการงูสวัด

ที่มาของข้อมูล http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=2

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 2

ตอนนี้มาต่อตอน 2 กันเลยนะครับ สำหรับเรื่องราวดีๆของเรื่องสมุนไพรไทย

ใบพยาสัตตบัน แก้ไข้หวัด

ดอกพยาสัตตบัน แก้ไข้ตัวร้อน แก้โลหิตพิการ

ใบและผลชะมวง แก้กระหายน้ำ แก้ไข้ ระบาย

รากชะมวง แก้ไข้

เปลือกต้นสัตตยาบัน แก้ไข้หวัด แก้หลอดลมอักเสก แก้บิด

ต้นและรากเตยหอม แก้กระษัย ไตพิการ ขับปัสสาวะ

เปลือกทิ้งถ่อน ขับลม แก้ท้องอืด บำรุงธาตุ แก้ธาตุพิการ เจริญอาหาร

รากและแก่นทิ้งถ่อน แก้อาการท้องอืด ปวดเอว ปวดหลัง

ใบทุเรียน แก้อาการอักเสบของแผลฝีทำให้หนองแห้ง

ต้นท้าวยามม่อมตัวเมีย แก้พิษงู แก้กระหายน้ำ แก้หอบหืด และไอ

ใบเทียนดอกขาว ถอนพิษปวดแสบปวดร้อน

เปลือกต้นนุ่น แก้ร้อนใน แก้อาการไข้

น้ำมันจากเมล็ดนุ่น ขับปัสสาวะ ยาระบายอ่อน ๆ

รากนางแย้ม แก้ฝี ขับปัสสาวะ แก้ลำไส้อักเสบ แก้ไตพิการ

ใบหนาดใหญ่ แก้ริดสีดวงจมูก ขับลม แก้อาการจุกเสียด แก้ปวดท้อง ขับเหงื่อ ขับเสมหะ

ใบไผ่ ฟอกโลหิตที่เสีย

ตาไผ่ แก้ร้อนในกระหายน้ำ

รากฝรั่ง แก้น้ำเหลืองเสีย

เปลือกฝ้ายขาว ขับระดูเสีย ทำให้มดลูกบีบตัวได้ดี

เปลือกพิกุล แก้โรคฟันต่าง ๆ

แก่นต้นพิกุล บำรุงเลือด

ราก ดอก พิกุล แก้ลม ขับเสมหะ

ใบพุทรา แก้ทรางชักในเด็ก

ใบมะกา แก้ลม แก้ไข้

รากมะกรูด แก้ฝี แก้ลมจุกเสียด ขับพิษผิดสำแดง

แก่นมะเกลือ ขับประจำเดือน แก้โลหิตจาง แก้กระษัย แก้ธาตุพิการ

แก่นมะขาม ขับเสมหะ

ใบมะขวิด แก้อาการฟกช้ำ แก้ฝี แก้อาการท้องร่วง แก้อาการตกเลือด

รากมะงั่ว ถอนพิษผิดสำแดง แก้ฝี แก้น้ำเหลืองเสีย

รากมะเดื่อชุมพร แก้ไข้

ลูกมะตูมอ่อน ขับลม เจริญอาหาร บำรุงธาตุ

ลูกมะตูมแก่ ขับเสมหะ บำรุงธาตุ

ลูกมะตูมสุก แก้ลม บำรุงธาตุ ช่วยย่อย แก้กระหายน้ำ ขับลม

ใบมะนาว ทำให้ระดูเป็นปกติ

เปลือกและแก่นต้นมะพลับ บำรุงธาตุ เจริญอหาร แก้อาการท้องร่วง ผายลม

รากมะไฟ แก้ฝี แก้เริม ดับพิษร้อน

กาฝากมะม่วง แก้ความดันโลหิตสูง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=1

สมุนไพรมีประโยชน์ Part 1

ตอนนี้จะขอแนะนำสมุนไพรที่มีประโยชน์แก่ทุกๆท่านนะครับ เชิญติดตามกันได้เลย

สมุนไพรไทยเรามากมายมีประโยชน์ทั้งสิ้น
แต่ละชนิดนั้นมีคุณค่า มีสรรพคุณในทางยา เอามารักษาและขจัดปัดเป่าอาการของโรคต่าง ๆ ได้เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะเอามาใช้ประโยชน์อย่างไร เท่านั้นเอง

ก่อนที่จะไปถึงตัวยาอบสมุนไพรไทยเรานั้น มาทำความเข้าใจกับพืชสมุนไพรต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพคนเรากันบ้างพอสมควร ในที่นี้ขอยกเอามาเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ความจริงมีพืชสมุนไพรอีกมากมายที่มีคุณค่าและเอามาใช้ประโยชน์ได้สำหรับมนุษย์



สมุนไพรที่เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นต้นเล็กหรือต้นโตก็ตาม จะมีแก่นหรือไม่มีแก่นก็ได้ ขอเรียกว่า “ ต้น ”
“ ต้น ” สมุนไพรเอามาใช้เป็นยาได้มากมาย เพราะมีคุณสมบัติที่ดี ส่วนจะใช้เป็นยารักษาบำบัดอาการหรือโรคอะไรนั้น โปรดพิจารณาดูดังต่อไปนี้
ต้นกรรณิกา ใช้เพื่อแก้ปวดศีรษะได้ดี
ดอกกรรณิกา ใช้แก้ไข้ แก้ลมวิงเวียนศีรษะต่าง ๆ
รากกรรณิกา ใช้บำรุงธาตุ แก้ลมต่าง ๆ ทำให้ผิวหนังสดชื่น เกลี้ยงเกลา ผุดผ่อง
ใบกุ่มน้ำ ใช้ขับเหงื่อได้ดี
ดอกกุ่มน้ำ แก้เจ็บในลำคอ รักษาตาอักเสบ
ลูกกุ่มน้ำ ใช้แก้ไข้ได้ดี
เปลือกกุ่มน้ำ ใช้แก้สะอึก ขับเหงื่อ ขับลมได้ดี
กระพี้กุ่มน้ำ ใช้แก้ริดสีดวงทวารหนัก
รากกุ่มน้ำ บำรุงธาตุ แก้หนอง ขจัดหนอง
เปลือกต้นขี้หนอน แก้อาการเป็นหวัด
แก่นขี้เหล็ก แก้เหน็บชา แก้กระษัย แก้ธาตุพิการ
รากขี้เหล็กบ้าน แก้ไข้กลับหรืออาการเป็นไข้อีกครั้ง
ขี้เหล็กทั้ง ๕ ( ราก ลูก ดอก ใบ ต้น ) แก้พิษไข้ ขับเสมหะ แก้กระษัย
ใบ้ต้นไข่มด แก้กลากเกลื้อน
รากเข็มแดง แก้ปวดบวม บำรุงธาตุ ขับเสมหะ
เมล็ดข่อย บำรุงธาตุ ยาอายุวัฒนะ เจริญอาหาร บำรุงธาตุ แก้ท้องอืดเฟ้อ
ราก ใบ ต้นเล็บครุฑ แก้ไข้หวัด แก้ปวดศีรษะ แก้สะอึก
เมล็ดต้นเล็บครุฑ ถอนพิษงู ตะขาบ แมงป่อง
ใบแคแดง แก้ไข้หัวลม ( ไข้เปลี่ยนฤดู ) แก้ริดสีดวงจมูก
รากแคแดง ขับเสมหะ
เกสรดอกคำฝอย บำรุงโลหิต
เมล็ดคำฝอย ขับเสมหะ ยาระบาย ขับเสมหะ แก้ปวดมดลูก แก้โรคผิวหนัง
น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย แก้อัมพาต
เปลือกคงคาเดือด แก้อาการคัน แก้ทรางตัวร้อน แก้กระหายน้ำ แก้ไข้ แก้ไอ
เนื้อไม้คงคาเดือด ใช้ฆ่าพยาธิ
ต้นและรากเหงือกปลาหมอ ยาอายุวัฒนะ แก้ไข้ แก้ฝี แผลเรื้อรัง แก้อาการคัน
ลูกเหงือกปลาหมอ ขับระดูสตรี
รากงิ้ว บำรุงกำลัง
รากแจง แก้อาการปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง แก้กระษัย
ใบจิกนา แก้อาการท้องร่วง ท้องเสีย
เมล็ดจิกนา แก้อาเจียน แก้ไอในเด็ก แก้อาการแน่น
เนื้อไม้จิกนา ขับระดูขาว
ดอกเจตมูลเพลิงขาว แก้อาการไข้หนาว ๆ ร้อน ๆ
ชุมเห็ดไทย แก้อาการไข้ แก้หืดหอบ
ลูกชุมเห็ดไทย บำรุงหัวใจ แก้ฟกช้ำ
รากไทรย้อย ขับปัสสาวะ แก้กระษัยไตพิการ แก้ขัดเบา
ต้นดาวเรืองทั้งต้น ขับลม แก้อาการจุกเสียด อาการปวดท้อง
เนื้อต้นตะขบไทย แก้ตานขโมย ขับพยาธิไส้เดือน
ต้นและราคตะขบไทย แก้โรคผิวหนัง แก้อาการผื่นคัน
ต้นตะไคร้หอมหรือตะไคร้แดง ขับลม แก้แน่น ( สตรีมีครรภ์ห้ามรับประทาน )

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.watraja.org/index.php?option=com_content&task=view&id=81&Itemid=1&limit=1&limitstart=0

รอบนี้มีเรื่องมาให้ทุกๆท่านได้ชม และเลือกดูกันนะครับว่าจะชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ลองถามใจตัวดูนะว่าตัวเองชอบแบบไหน ^-^ ส่วนตัวผมนั้น..........ไม่บอกดีกว่า อุอุ

อีกหนึ่ง เรื่องราวที่อยากให้ทุกท่านได้ชม

MV นี้นะครับ โดยส่วนตัวผมเองแล้วได้ไปพบเจอมาทางเว๊ปไซด์ พอได้ดูแล้วก็ตื้นตันจนน้ำตาไหล พร้อมกับเปล่งคำว่า "ทรงพระเจริญ" เป็นอีกหนึ่ง MV ดีๆ ที่ผมอยากให้ทุกท่านได้ชมกันนะครับ

MV King of King

รอบนี้ผมก็มี MV ดีๆให้ทุกท่านได้ชมกันนะครับ เป็นบทเพลงที่คนไทยๆทุกคนได้ร่วมกันร้องเพลงนี้กันเมื่อปี 52 ในปีทีในหลวงทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ซึ่งเป็นพระมหากษัติย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก

เชิญชมกันกันเลยนะครับ

วัดปรมัยยิกาวาส

เอาละนะครับทุกท่าน วันนี้จะเป็นวัดริมฝั่งแม่น้ำในจังหวัดนนทบุรีกันนะครับ

วัดปรมัยยิกาวาส เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ที่ 7 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

วัดปรมัยยิกาวาสเป็นวัดโบราณ น่าจะสร้างหลังจากพระเจ้าท้ายสระทรงโปรดให้ขุดคลอง เมื่อ พ.ศ. 2264 ชาวเรือเรียก วัดปากอ่าว จนปี พ.ศ. 2307พม่าบุกยึดเมืองนนทบุรี กลายเป็นวัดร้างเมื่อปี พ.ศ. 2317 ชาวมอญที่อพยพมาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ คนมอญเรียกว่า "เภี่ยมู้เกี้ยเติ้ง"

ในปี พ.ศ. 2417 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทอดกฐินวัดมอญ 4 วัด ได้แก่ วัดปากอ่าว วัดรามัญ (วัดเกาะพระยาเจ่ง) วัดบางพัง และวัดสนาม (สนามเหนือ) ต่อมาทรงเห็นว่าวัดปากอ่าวทรุดโทรมมาก จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ทั้งวัดโดยรักษารูปแบบมอญไว้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สนองพระคุณพระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร ผู้ทรงอภิบาลพระองค์มาแต่ทรงพระเยาว์ และได้พระราชทานนามวัดว่า วัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งมีความหมายว่า "วัดของพระบรมอัยยิกา"

สิ่งสำคัญภายในวัดมีพระอุโบสถที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยประยุกต์ บานประตูหน้าต่างประดับ ลายปูนปั้นเขียนด้วยสี กำแพงแก้วรอบพระอุโบสถมีลวดลายที่สวยงาม เป็นกำแพงเหล็กอย่างดีทำมาจากยุโรป อีกทั้งด้านหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์รูปทรงแบบมอญซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหารามัญเจดีย์นี้ เมื่อปี พ.ศ. 2427 และใกล้กันนั้นมีพระวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่เป็นที่สามในอำเภอปากเกร็ด ส่วนด้านหน้าพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่งพระปฏิมากรซานซิวซูนทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมี "พระนนทมุนินท์" เป็นพระพุทธรูปปางขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 1 เมตร สูง 1.65 เมตร หล่อด้วยโลหะ พระศาสนโสภณ (อ่อน) เจ้าคณะมณฑลกรุงเทพสร้างเป็นพระพุทธรูปประจำเมืองนนทบุรี พระยาราชสงครามเป็นผู้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ด้านใต้พระวิหารพระพุทธไสยาสน์

วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร มีประเพณีของเมืองสืบมาว่า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ ได้จัดพิธีรับอย่างเป็นทางการพร้อมมีพิธีนมัสการพระพุทธรูปประจำเมืองนนทบุรีที่วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรีประดิษฐานอยู่ในตู้กระจก ใต้พาไล ด้านหลังพระวิหารแห่งนี้ด้วย

วัดมอญเก่าแก่แห่งนี้มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงามากมาย ทั้งยังมีม้านั่งสำหรับชมทัศนียภาพอันสวยงามริมเกาะอีกด้วย นับได้ว่า เป็นวัดที่เชิดหน้าชูตาของชาวเกาะเกร็ดเป็นอย่างมากทีเดียว

ข้อมูล http://th.wikipedia.org/wiki/วัดปรมัยยิกาวาส